นะหน้าทอง พิธีลงทองบนใบหน้าเพื่อเสริมเสน่ห์ เมตตามหานิยม - สยามมงคลแมก

สยามมงคลแมก

สยามมงคลแมก : นิตยสารพระเครื่องและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ออนไลน์ บทความสาระความรู้ เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับพระเครื่อง ให้บูชาพระเครื่อง และแนะนำวัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง

test banner

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

นะหน้าทอง พิธีลงทองบนใบหน้าเพื่อเสริมเสน่ห์ เมตตามหานิยม



นะหน้าทอง ตำนานวิชามหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม เสริมราศีบนใบหน้า

นะหน้าทอง หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำนี้มา หรือเป็นที่คุ้นหูสำหรับบางคน ที่มักเห็นกันการลงนะหน้าทองจะมีตามวัดหรือสำนักอาจารย์ต่างๆ โดยเกจิอาจารย์ นำแผ่นทองแปะลงบนในหน้าของผู้ที่ลง ทำการบริกรรมคาถา แท้จริงแล้วนะหน้าทองมีที่มาอย่างมีตำนานความเป็นมาอย่างไรจะได้นำมาเล่าสู่กันฟัง

นะหน้าทอง คือวิชา "นะ" ประเภทหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในคัมภีย์พระเวทย์โบราณที่ถูกบันทึกกันมาจากรุ่นสู่รุ่น วิชานะหน้าทองจัดเป็นวิชาทางด้านไสยเวทย์ประเภท เมตตามหานิยม คือ ทำให้คนรักคนชอบ รักใคร่เอ็นดู การลงวิชานี้ต้องทำโดยพระเกจิอาจารย์ผู้มีพลังจิตมีพระเวทย์วิทยาคมแก่กล้ามีความชำนาญในเวทย์มนต์คาถา จึงจะเกิดผลเป็นไปตามวิชา หากผู้ที่ลงไม่มีพลังเวทย์หรือพลังจิตไม่แก่กล้าอย่างนั้นการลงนั้นก็เป็นแค่พิธีกรรมหาได้เกิดผลอย่างจริงจังไม่ แต่หากลงโดยพระเกจิอาจารย์ผู้มีความชำนาญและมีพลังจิตแก่กล้าและมีความชำนาญในวิชา และยังมีบุญบารมีมากแล้วย่อมเกิดผล หรือที่เรียกว่า "ขลัง" มากทีเดียว



การลงนะหน้าทอง เป็นพิธีกรรมการลงแผ่นทองบนใบหน้า โดยพระเกจิอาจารย์ที่ลง จะใช้ทองคำเปลวแท้ ตั้งแต่จำนวน ๓,๗,๙...จนถึง ๑๐๘ แผ่น แล้วแต่ตำรา และแล้วแต่ความต้องการและความเหมาะสมของแต่ละคน โดยแผ่นทองที่ลงพระเกจิอาจารย์บางท่านทำการปลุกเสกไว้ก่อน ขั้นตอนการลงเกจิอาจารย์ผู้ลงจะ เริ่มเขียนอักขระเลขยันต์ ต่างๆ ตามสูตรตามแบบตามที่ได้เรียนมา บนหน้าผากหรือบนใบหน้าของผู้ที่ลง โดยกำหนดจิตบริกรรมคาถาตามสูตร แล้วนำแผ่นทองคำแบบลงบนใบหน้าเป่าด้วยคาถาตามสูตร เป็นอันเสร็จพิธี การลงนะหน้าทองในสมัยโบราณนิยมลงกันในหมู่บรรดาเจ้าขุนมูลนาย และพระราชวงศ์ ซึ่งผู้ที่ลงให้ก็มักจะเป็นพระสงฆ์ผู้มีวิชาอาคมและเป็นผู้มากด้วยบารมี การลงนะหน้าทองถือเป็นการเสริมบารมีให้กับตัวเอง ผู้ที่ลงแล้วจะมีสง่าราศี มีวรรณะผุดผ่องสว่างไสว เป็นที่รักใคร่ยกย่องเคารพต่อผู้ใต้บังคับบัญชา หรือ เป็นที่รักใคร่เอ็นดู เป็นที่ชื่นชอบต่อผู้ที่ได้ประสบพบเห็น เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน การลงนะหน้าทองหากลงอย่างถูกต้องจากเกจิอาจารย์ผู้มีพลังจิตและพระเวทย์วิทยาคมแล้วจะติดตัวไปจนวันตาย เล่ากันว่าแม้ว่าตายแล้วเผาไฟกระโหลกที่ลงไปก็ยังเป็นสีทอง

ในสมัยโบราณพระเกจิอาจารย์หลายรูปมักให้เกจิอาจารย์ องค์อื่นที่เป็นครูบาอาจารย์หรือสหายธรรมิกกัน ลงนะหน้าทองให้ เพื่อเสริมบารมี เพราะวิชานะหน้าทองเป็นวิชาชั้นสูง ไม่ใช่ไสยเวทย์ชั้นต่ำแต่อย่างใด

ในอดีตจนถึงปัจจุบันมีพระเกจิอาจารย์ที่ลงนะหน้าทองให้กับลูกศิษย์ลูกหา เพื่อสงเคราะห์ช่วยเหลือชาวบ้านด้วยความเมตตา มีหลายองค์ที่ท่านลงวิชานะหน้าทองด้วยวิธีการอันสุดอัศจรรย์ อาทิเช่นพระเดชพระคุณ หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม จังหวัดนครปฐม ท่านเป็นหนึ่งในเกจิอาจารย์ที่ลงนะหน้าทองให้กับลูกศิษย์ เมื่อถึงขั้นตอนการลงนะท่านไม่ได้แกะทองมาแปะหน้าเหมือนที่ทำกันทั่วไป ท่านนำแผ่นทองที่ยังอยู่ในกระดาบพับวางไปบนหน้าผากของผู้ที่ลง แล้วบริกรรมคาถาเป่าพรวดและตบทีเดียวแผ่นทองทั้งที่อยู่ในกระดาษ หายวับเข้าไปเลย มักเรียกกันว่าตบทองเข้าหน้าผาก เป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง นอกจากนั้นก็ยังมีเกจิอาจารย์อีกมากที่ลงนะหน้าทองให้กับลูกศิษย์ต่างก็มีดีต่างกันไป


พิธีกรรมการลงนะหน้าทอง ในทางวัฒนธรรมความเชื่อ แล้วกล่าวได้ว่าเป็นพิธีกรรมที่เสริมกำลังใจ ให้กับประชาชนคนทั่วไป เรื่องเกี่ยวกับการมีที่พึ่งทางใจ เพราะสถานที่ๆรับลง มักจะเป็นวัดและทำโดยพระสงฆ์ หรือบางที่ก็เป็นสำนักต่างๆ ที่เป็นที่เคารพของคนหรือชาวบ้าน การไปวัดทำบุญทำกุศลแล้วยังได้ทำพิธีกรรมที่เชื่อว่าเป็นสิ่งที่เสริมมงคล หรือสิ่งที่ดีงามให้กับตัวเองก็ย่อมสร้างเสริมกำลังใจและเสริมศรัทธาให้กับผู้คนได้เป็นอย่างดี เมื่อออกจากวัดหรือสำนักไปแล้วก็มีกำลังใจที่จะต่อสู้กับชีวิตหรือทำกิจการการงานต่อได้อย่างมีกำลังใจ ซึ่งอาชีพต่างที่เป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับผู้คนอาทิเช่น นักแสดง นักร้อง หรือผู้ที่มีอาชีพที่ต้องใช้หน้าตาและต้องพบปะพูดคุยมักนิยมไปลงนะหน้าทองเพราะเชื่อว่าจะเสริมทางด้านเมตตามหานิยมคือทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นเกิดความรักชอบ และเพื่อเพิ่มเสริมกำลังใจในหน้าที่การงานอีกด้วย จึงนับได้ว่าการลงนะหน้าทองก็เป็นพิธีกรรมทางประเพณีวัฒนธรรมของไทยอีกอย่างหนึ่ง ที่ปรากฏอยู่ในสังคมปัจจุบัน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad

Pages