ท้าวเวสสุวรรณ ตำนานเจ้าแห่งยักษาและบันดาลโชคลาภ - สยามมงคลแมก

สยามมงคลแมก

สยามมงคลแมก : นิตยสารพระเครื่องและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ออนไลน์ บทความสาระความรู้ เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับพระเครื่อง ให้บูชาพระเครื่อง และแนะนำวัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง

test banner

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2564

ท้าวเวสสุวรรณ ตำนานเจ้าแห่งยักษาและบันดาลโชคลาภ



ท้าวเวสสุวรรณ ท้าวเวสสุวัณ หรือท้าวกุเวร เป็นเทพ องค์หนึ่งที่ปรากฏในอิทธิพลความเชื่อทั้งฝ่ายพราห์มฮินดู และมีทางพุทธศาสนา ที่มีการกล่าวถึงไว้และมีตำนานชัดเจน ถึงตำนานหรือความเชื่อเกี่ยวกับท้าวเวสสุวรรณ ในทางพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงมีอยู่จริงของท้าวเวสสุวรรณไว้ โดยปรากฏเป็นหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดคือคัมภีย์ไตรภูมิพระร่วง ที่เป็นบันทึกที่ถูกสร้างขึ้นในยุคสุโขทัยที่อธิบายถึงภพภูมิต่างๆไว้อย่างชัดเจน 

ท้าวเวสสุวรรณเป็นใคร ในไตรภูมิพระร่วง ได้กล่าวถึงการมีอยู่ของสวรรค์ชั้นต่างๆ และในสวรรค์ชั้นที่ 1 มีชื่อว่า สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา และสวรรค์ชั้นนี้เองถูกปกครองโดยมหาเทพ 4 องค์ และหนึ่งในนั้นคือท้าวเวสสุวรรณ

โดยสวรรค์ชั้นที่ 1 จาตุมหาราชิกา  นั้นตั้งอยู่ ณ เขาพระสุเมรุกลางจักรวาล  โดยมียอดเป็นที่ตั้งของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์  สาเหตุที่เรียกสวรรค์ชั้นที่ 1 นี้ว่า จาตุมหาราชิกา  ก็เพราะว่ามีจตุมหาราชเป็นผู้ปกครอง 4 องค์ดังที่เราเรียกว่า “ท้าวจตุโลกบาล”  คือมีหน้าที่รักษาโลกมนุษย์ใน 4 ทิศ ได้แก่

1.ทิศตะวันออก  รักษาโดยท้าวธตรฐ ปกครองคนธรรพ์  ซึ่งคนธรรพ์นี้เป็นลูกครึ่งคนกับเทวดา  เป็นผู้รักษาต้นโสมจึงมีความชำนาญการปรุงยา  และเป็นนักษัตรคือมีความรอบรู้การดูดวงดาว  เชี่ยวชาญดาราศาสตร์ และโหราศาสตร์ นอกจากนี้ยังเป็นชาวสวรรค์ที่ชำนาญการขับร้องและเล่นดนตรี ดีด สี ตี เป่า จึงมีหน้าที่เป็นพระภูมิรักษาห้องบ่าวสาวอีกด้วย

2.ทิศใต้  รักษาโดยท้าววิรุฬหก ปกครองกุมภัณฑ์  ซึ่งความจริงท้าววิรุฬหกนี้เป็นจอมเทวดาองค์หนึ่ง มีนามว่า “พระพิรุฬห์” เป็นเจ้าแห่งน้ำทั้งปวง  เป็นเทวราชที่มีฤทธิ์ยิ่งกว่าเทพเจ้าองค์อื่น ๆ จึงเป็นผู้สร้างและบำรุงเทวโลกและมนุษย์โลก  มีอำนาจและรอบรู้ในสิ่งทั้งปวงเพราะเป็นผู้ส่งเทวทูตไปทั่วทุกสารทิศเพื่อจดจำการกระทำของเทวดา  มนุษย์และอสูรทั้งปวง  ท่านเป็นผู้ที่เกลียดชังการกล่าวเท็จ และมีผู้ผิดสัญญาจึงมักจะลงโทษให้เจ็บป่วยไข้ หรือนำวรุณบาศคล้องคอไปลงทัณฑ์  แต่พระองค์เป็นผู้มีเมตตาถ้าผู้ใดสำนึกผิดก็จะผ่อนปรนให้  และผู้ใดประพฤติดีอยู่ในทำนองคลองธรรมท่านก็จะอำนวยความสุขสวัสดี  ช่วยให้รอดพ้นจากภัยอันตรายได้ในบางคราว

3.ทิศตะวันตก  รักษาโดยท้าววิรูปักษ์ ปกครองนาค คือมีบริวารเป็นมนุษย์ผสมนาคมีหน้าที่รักษา สมณะชีพราหมณ์และมนุษย์ผู้รักษาศีลภาวนาทั่วไป  ซึ่งนาคนั้นมีความสำคัญไม่น้อย  เคยขดตัวทำเป็นบัลลังก์ให้พระวิษณุบรรทมอยู่ในเกษียรสมุทร  เคยให้เป็นเชือกผูกเรือไว้กับกระโดงปลาใหญ่  ซึ่งพระนารายณ์อวตารเมื่อคราวน้ำท่วมโลก และเป็นเชือกพันกับภูเขาในการทำน้ำอมฤต  ทั้งพระยานาคยังเป็นสร้อยสังวาลของพระอิศวรอีกด้วย ฯลฯ  นี่ว่ากันตามคัมภีร์รามายณะของพราหมณ์
ส่วนในสมัย พระสมณโคดมบรมพุทธเจ้าของเราก็มีนาค มาเกี่ยวข้องหลายคราว เช่น เมื่อคราวที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วเสวยวิมุตติสุขอยู่ใต้ต้นจิก  ก็มีพญานาคราชชื่อ “มุจลินท์” มาขดตัวเป็นฐานแล้วแสดงอิทธิฤทธิ์แผ่พังพานบังแดดบังฝนซึ่งก่อให้เกิด  พระพุทธรูปปางนาคปรกขึ้น ดังนี้เป็นต้น

4.ทิศเหนือ  รักษาโดยท้าวกุเวร หรือท้าวเวสสุวัณ ปกครองยักษ์  ผู้เป็นเจ้าแห่งยักษ์ กุมภัณฑ์ รากษส แทตย์ ทานพ เปรต อสูร อสุรกาย อมนุษย์ ตลอดทั้งเป็นนายของบรรดาภูตผี ปีศาจทั้งปวง

ท้าวเวสสุวรรณ ก็คือเทวดาผู้เป็นอธิบดีชั้นปกครอง หรือเป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาองค์หนึ่ง ในสี่ ของท้าวมหาราช นอกจากท่านจะเป็นเทวดาชั้นผู้ใหญ่แล้วท่านก็ยังมีหน้าที่ปกครองยักษ์อีกหน้าที่หนึ่งด้วย

ทางด้านตำนานความเชื่อเกี่ยวกับท้าวเวสสุวรรณของไทย มีมาช้านานมีปรากฏในคัมภีย์พระเวทย์ ที่ได้บันทึกถึงยันต์รูปท้าวเวสสุวรรณเอาไว้ โดยมีลักษณะเป็นรูปยักษ์ถือกระบอง และมีการผูกอักขระยันต์ไว้ล้อมรอบ มีคาถาและการปลุกเสกตามตำรา

ส่วนทางด้านความเชื่อนั้น มีความเชื่อของคนโบราณ หากทำรูปท้าวเวสสุวรรณแขวนไว้เหนือเปลเด็กอ่อน เชื่อว่าจะช่วยป้องกันการรบกวนจากอมนุษย์ ภูติผีปีศาจได้

ในทางด้านเครื่องรางของขลัง มีการสร้างรูปเหมือน หรือวัตถุมงคลประเภทท้าวเวสสุวรรณขึ้น ที่ปรากฏเด่นชัดและเป็นต้นตำรับได้แก่ ท้าวเวสสุวรรณ ที่สร้างโดยพระมงคลราชมุนี หรือพระศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์ ยฺติธฺโร) อันเป็นสมณศักดิ์เดิมของท่านก่อนได้รับเลื่อนเป็น “พระมงคลราชมุนี” ท่านคือผู้สืบทอดการสร้างพระกริ่งจากสมเด็จพระสังฆราช(แพ) ที่ถือว่าเป็นพระกริ่งของในตำนานของเมืองไทย

ท้าวเวสสุวรรณยังมีอิทธิพลในด้านศิลปะ ทางด้านวัตถุเกี่ยวกับศาสนาสถาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัดวาอารามต่างๆ ในประเทศไทยทั่วทุกภาค มักสร้างรูปเหมือนท้าวเวสสุวรรณที่มีลักษณะเป็นรูปยักษ์ถือกระบอง เพื่อให้ผู้คนได้กราบไหว้บูชา

ท้าวเวสสุวรรณ วัดเกตุมวดี จ.สมุทรสาคร

ท้าวเวสสุวรรณ วัดเกตุมวดี จ.สมุทรสาคร







ท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณี สมุทรสาคร

ท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณี สมุทรสาคร

ท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณี สมุทรสาคร
รูปท้าวเวสสสุวรรณ ที่วัดจุฬามณี สมุทรสาคร

ท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณี สมุทรสาคร


ป้ายคาถาท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณี สมุทรสาคร
คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ จากป้ายศิลาคาถา ที่วัดจุฬามณี





ท้าวเวสสุวรรณที่มีชื่ออีกแห่งหนึ่ง ที่ผู้คนนิยมไปกราบไหว้บูชาขอพร คือท้าวเวสสุวรรณที่วัดจุฬามณี จ.สมุทรสาคร โดยวัดนี้มีสังขารของพระเกจิอาจารย์องค์เก่า ที่ได้รับความเคารพศรัทธา คือพระเดชพระคุณหลวงพ่อเนื่อง โดยเจ้าอาวาสองค์ถัดมาคือหลวงพ่ออิฐ ท่านได้สร้างท้าวเวสสุรรณขนาดบูชาไว้ที่วัดหลายองค์ และหลายปาง ให้คนได้กราบไหว้บูชา
ปางแต่ละปางของท้าวเวสสุวรรณวัดจุฬามณีแตกต่างกันอย่างไร
คนไทยเชื่อกันว่าท้าวเวสสุวรรณเป็นเทพแห่งอสูรที่คอยปกปักรักษาโลกมนุษย์ โดยส่วนมากแล้วถ้าเราเห็นรูปปั้น รูปหล่อของท่านท้าวเวสสุวรรณตามวัดต่าง ๆ อย่างท้าวเวสสุวรรณวัดสุทัศน์ หรือผ้ายันต์รูปท้าวเวสสุวรรณก็ตาม เราก็มักจะเห็นกันเป็นรูปยักษ์ แต่ท้าวเวสสุวรรณวัดจุฬามณีนั้นจะแตกต่างออกไป เพราะนอกจากจะมีปางที่เป็นรูปยักษ์อย่างที่เราคุ้นเคยกันแล้วก็ยังมี ปางอื่น ๆ ที่ไม่ใช่แค่ที่เป็นยักษ์ให้เราเห็นและกราบไว้บูชาอีกด้วย


 คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ หรือท้าวกุเวร 

ตั้ง นะโม 3 จบ

อิติปิโสภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ มรณังสุขัง อะหังสุคะโต นะโมพุทธายะท้าวเวสสุวรรณโณ จตุมหาราชิกา ยักขะพันตา ภัทภูริโตเวสสะ พุสะ พุทธัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโมพุทธายะ (สวดบูชา 9 จบ) 
เมื่อสวดแล้วสามารถอธิษฐานทางด้านความสำเร็จ คุ้มครองป้องกัน และโชคลาภได้








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad

Pages