ท้าวเวสสุวรรณ ท้าวเวสสุวัณ หรือท้าวกุเวร เป็นเทพ องค์หนึ่งที่ปรากฏในอิทธิพลความเชื่อทั้งฝ่ายพราห์มฮินดู และมีทางพุทธศาสนา ที่มีการกล่าวถึงไว้และมีตำนานชัดเจน ถึงตำนานหรือความเชื่อเกี่ยวกับท้าวเวสสุวรรณ ในทางพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงมีอยู่จริงของท้าวเวสสุวรรณไว้ โดยปรากฏเป็นหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดคือคัมภีย์ไตรภูมิพระร่วง ที่เป็นบันทึกที่ถูกสร้างขึ้นในยุคสุโขทัยที่อธิบายถึงภพภูมิต่างๆไว้อย่างชัดเจน
ท้าวเวสสุวรรณเป็นใคร ในไตรภูมิพระร่วง ได้กล่าวถึงการมีอยู่ของสวรรค์ชั้นต่างๆ และในสวรรค์ชั้นที่ 1 มีชื่อว่า สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา และสวรรค์ชั้นนี้เองถูกปกครองโดยมหาเทพ 4 องค์ และหนึ่งในนั้นคือท้าวเวสสุวรรณ
โดยสวรรค์ชั้นที่ 1 จาตุมหาราชิกา นั้นตั้งอยู่ ณ เขาพระสุเมรุกลางจักรวาล โดยมียอดเป็นที่ตั้งของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ สาเหตุที่เรียกสวรรค์ชั้นที่ 1 นี้ว่า จาตุมหาราชิกา ก็เพราะว่ามีจตุมหาราชเป็นผู้ปกครอง 4 องค์ดังที่เราเรียกว่า “ท้าวจตุโลกบาล” คือมีหน้าที่รักษาโลกมนุษย์ใน 4 ทิศ ได้แก่
1.ทิศตะวันออก รักษาโดยท้าวธตรฐ ปกครองคนธรรพ์ ซึ่งคนธรรพ์นี้เป็นลูกครึ่งคนกับเทวดา เป็นผู้รักษาต้นโสมจึงมีความชำนาญการปรุงยา และเป็นนักษัตรคือมีความรอบรู้การดูดวงดาว เชี่ยวชาญดาราศาสตร์ และโหราศาสตร์ นอกจากนี้ยังเป็นชาวสวรรค์ที่ชำนาญการขับร้องและเล่นดนตรี ดีด สี ตี เป่า จึงมีหน้าที่เป็นพระภูมิรักษาห้องบ่าวสาวอีกด้วย
2.ทิศใต้ รักษาโดยท้าววิรุฬหก ปกครองกุมภัณฑ์ ซึ่งความจริงท้าววิรุฬหกนี้เป็นจอมเทวดาองค์หนึ่ง มีนามว่า “พระพิรุฬห์” เป็นเจ้าแห่งน้ำทั้งปวง เป็นเทวราชที่มีฤทธิ์ยิ่งกว่าเทพเจ้าองค์อื่น ๆ จึงเป็นผู้สร้างและบำรุงเทวโลกและมนุษย์โลก มีอำนาจและรอบรู้ในสิ่งทั้งปวงเพราะเป็นผู้ส่งเทวทูตไปทั่วทุกสารทิศเพื่อจดจำการกระทำของเทวดา มนุษย์และอสูรทั้งปวง ท่านเป็นผู้ที่เกลียดชังการกล่าวเท็จ และมีผู้ผิดสัญญาจึงมักจะลงโทษให้เจ็บป่วยไข้ หรือนำวรุณบาศคล้องคอไปลงทัณฑ์ แต่พระองค์เป็นผู้มีเมตตาถ้าผู้ใดสำนึกผิดก็จะผ่อนปรนให้ และผู้ใดประพฤติดีอยู่ในทำนองคลองธรรมท่านก็จะอำนวยความสุขสวัสดี ช่วยให้รอดพ้นจากภัยอันตรายได้ในบางคราว
3.ทิศตะวันตก รักษาโดยท้าววิรูปักษ์ ปกครองนาค คือมีบริวารเป็นมนุษย์ผสมนาคมีหน้าที่รักษา สมณะชีพราหมณ์และมนุษย์ผู้รักษาศีลภาวนาทั่วไป ซึ่งนาคนั้นมีความสำคัญไม่น้อย เคยขดตัวทำเป็นบัลลังก์ให้พระวิษณุบรรทมอยู่ในเกษียรสมุทร เคยให้เป็นเชือกผูกเรือไว้กับกระโดงปลาใหญ่ ซึ่งพระนารายณ์อวตารเมื่อคราวน้ำท่วมโลก และเป็นเชือกพันกับภูเขาในการทำน้ำอมฤต ทั้งพระยานาคยังเป็นสร้อยสังวาลของพระอิศวรอีกด้วย ฯลฯ นี่ว่ากันตามคัมภีร์รามายณะของพราหมณ์
ส่วนในสมัย พระสมณโคดมบรมพุทธเจ้าของเราก็มีนาค มาเกี่ยวข้องหลายคราว เช่น เมื่อคราวที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วเสวยวิมุตติสุขอยู่ใต้ต้นจิก ก็มีพญานาคราชชื่อ “มุจลินท์” มาขดตัวเป็นฐานแล้วแสดงอิทธิฤทธิ์แผ่พังพานบังแดดบังฝนซึ่งก่อให้เกิด พระพุทธรูปปางนาคปรกขึ้น ดังนี้เป็นต้น
4.ทิศเหนือ รักษาโดยท้าวกุเวร หรือท้าวเวสสุวัณ ปกครองยักษ์ ผู้เป็นเจ้าแห่งยักษ์ กุมภัณฑ์ รากษส แทตย์ ทานพ เปรต อสูร อสุรกาย อมนุษย์ ตลอดทั้งเป็นนายของบรรดาภูตผี ปีศาจทั้งปวง
ท้าวเวสสุวรรณ ก็คือเทวดาผู้เป็นอธิบดีชั้นปกครอง หรือเป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาองค์หนึ่ง ในสี่ ของท้าวมหาราช นอกจากท่านจะเป็นเทวดาชั้นผู้ใหญ่แล้วท่านก็ยังมีหน้าที่ปกครองยักษ์อีกหน้าที่หนึ่งด้วย
ทางด้านตำนานความเชื่อเกี่ยวกับท้าวเวสสุวรรณของไทย มีมาช้านานมีปรากฏในคัมภีย์พระเวทย์ ที่ได้บันทึกถึงยันต์รูปท้าวเวสสุวรรณเอาไว้ โดยมีลักษณะเป็นรูปยักษ์ถือกระบอง และมีการผูกอักขระยันต์ไว้ล้อมรอบ มีคาถาและการปลุกเสกตามตำรา
ส่วนทางด้านความเชื่อนั้น มีความเชื่อของคนโบราณ หากทำรูปท้าวเวสสุวรรณแขวนไว้เหนือเปลเด็กอ่อน เชื่อว่าจะช่วยป้องกันการรบกวนจากอมนุษย์ ภูติผีปีศาจได้
ในทางด้านเครื่องรางของขลัง มีการสร้างรูปเหมือน หรือวัตถุมงคลประเภทท้าวเวสสุวรรณขึ้น ที่ปรากฏเด่นชัดและเป็นต้นตำรับได้แก่ ท้าวเวสสุวรรณ ที่สร้างโดยพระมงคลราชมุนี หรือพระศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์ ยฺติธฺโร) อันเป็นสมณศักดิ์เดิมของท่านก่อนได้รับเลื่อนเป็น “พระมงคลราชมุนี” ท่านคือผู้สืบทอดการสร้างพระกริ่งจากสมเด็จพระสังฆราช(แพ) ที่ถือว่าเป็นพระกริ่งของในตำนานของเมืองไทย
ท้าวเวสสุวรรณยังมีอิทธิพลในด้านศิลปะ ทางด้านวัตถุเกี่ยวกับศาสนาสถาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัดวาอารามต่างๆ ในประเทศไทยทั่วทุกภาค มักสร้างรูปเหมือนท้าวเวสสุวรรณที่มีลักษณะเป็นรูปยักษ์ถือกระบอง เพื่อให้ผู้คนได้กราบไหว้บูชา
ท้าวเวสสุวรรณ วัดเกตุมวดี จ.สมุทรสาคร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น