หลวงพ่อเดิม พุทฺธสโร วัดหนองโพธิ์ อำเภอตาคลี จ.นครสวรรค์ เทพเจ้าแห่งเมืองสี่แคว ยอดพระเกจิอาจารย์แห่งตาคลี ผู้เป็นตำนานแห่งพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองพระเวทย์วิทยาคมและพระเกจิอาจารย์นักพัฒนา
ชาติภูมิ
หลวงพ่อเดิมถือกำเนิดเมื่อวัน วันศุกร์ตรงกับวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๐๓ ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ณ บ้านหนองโพธิ อ.พยุหคีรี จ.นครสวรรค์ โยมบิดาชื่อ นายเนียม โยมมารดาชื่อ นางภู่ มีพี่น้องร่วมบิดา มารดา คือ
๑.หลวงพ่อเดิม เพราะเหตุที่เป็นบุตรชายคนแรกของบิดามารดา ปู่ย่าตายายจึงให้ชื่อว่า “เดิม”
๒.นางทองคำ คงหาญ
๓.นางพู ทองหนุน
๔.นายดวน ภู่มณี
๕ นางพัน จันทร์เจริญ
๖.นางเปรื่อง หมื่นนราเดชจั่น
อุปสมบท
ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดเขาแก้ว อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันอาทิตย์ แรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง โทศก ตรงกับวันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๒๓ โดยมีหลวงพ่อแก้ววัดอินทาราม (วัดใน) เป็นพระอุปัชฌายะ และหลวงพ่อเงิน (พระครูพยุหานุศาสก์) วัดพระปรางค์เหลือง ตำบลท่าน้ำอ้อย กับหลวงพ่อเทศ วัดสระทะเล ตำบลสระทะเล เป็นคู่สวด เมื่ออุปสมบทแล้วมีฉายาว่า “พุทฺธสโร”
หลวงพ่อเดิมท่านได้ไปเล่าเรียนกับครูบาอาจารย์อีกหลายท่านไม่ว่าจะเป็นทางด้านพระกรรมฐานและพระเวทย์วิทยาคมจนมีความรู้เชี่ยวชาญ
ด้านพระเวทย์วิทยาคม
หลวงพ่อเดิมท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านพระเวทย์วิทยาคม การปลุกเสกตลอดจนเครื่องรางของขลัง เมื่อท่านได้เริ่มสร้างวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังและมีผู้คนนำไปบูชาแล้วเป็นที่ประจักษณ์ถึงอิทธิคุณอำนาจ จนมีชาวบ้านได้เริ่มเข้ามาหาฝากตัวเป็นศิษย์มากมาย มาขอให้ท่านรดน้ำมนต์บ้าง ขอวิชาอาคมบ้าง มาขอเครื่องรางของขลังบ้าง มีเรื่องเล่าว่าสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพานั้น มีชาวบ้านพากันไปหาหลวงพ่อวันละมากๆ แล้วพากันซื้อผ้าขาวผ้าแดง เอาน้ำหมึกไปทาฝ่าเท้าของหลวงพ่อแล้วให้ท่านยกขาแล้วเหยียบไปที่ผืนผ้าจนเป็นรอยเท้า และนำไปเป็นผ้าพระเจียดพกติดตัวเพื่อหวังผลทางด้านคุ้มครองป้องกันจนหลวงพ่อถึงกับเอ่ยปากว่า
“มันทำกูเป็นหนูถีบจักร ทั้งเสก ทั้งเป่า ทั้งเหยียบ เมื่อยแข้งเมื่อยขาไปหมด”
ปรากฏว่า หลวงพ่อ “ทำวิชาขลัง” จนเป็นที่เลื่องลือท่านผู้อ่านบางท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่เห็นจะมีผู้รู้ผู้เห็น “ความขลัง” ของหลวงพ่อประจักษ์แก่ตาและแก่ตนเอง แล้วเล่ากันต่อๆ ไป จนเป็นที่ประจักษ์แก่หูอยู่เป็นอันมาก จึงปรากฏว่าประชาชนทั้งชาวบ้านและข้าราชการทั้งทหารและพลเรือนทั้งในจังหวัดนครสวรรค์และจังหวัดที่ใกล้เดียงตลอดไปจนจังหวัดที่ห่างไกลบางจังหวัด พากันไปมอบตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อมากมาย ขอให้หลวงพ่อรดน้ำมนต์บ้าง ขอวิชาอาคมบ้าง ขอแป้งขอผงบ้าง ขอน้ำมันบ้าง ขอตะกรุดบ้าง ขอผ้าประเจียดบ้าง ขอรูปและอื่นๆ บ้าง จากหลวงพ่อ และที่แพร่หลายที่สุดก็คือ ขอแหวนเงินหรือนิเกิลลงยันต์ มีรูปหลวงพ่อนั่งขัดสมาธิที่หัวแหวน
ต่อมาเมื่อสมัยสงครามมหาอาเซียบูรพา มีประชาชนพากันไปหาหลวงพ่อ วันละมากมาก นอกจากขอของขลังเช่นกล่าวแล้ว ยังพากันหาซื้อผ้าขาวผ้าแดง ผืนหนึ่ง ๆ ขนาดกว้างยาวราว ๑๒ นิ้วฟุต เอาน้ำหมึกไปทาฝ่าเท้าหลวงพ่อ แล้วยกขาของท่านเอาฝ่าเท้ากดลงไปให้รอยเท้าติดบนแผ่นผ้า บางคนก็กดเอาไปรอยเท้าเดียว บางคนก็กดเอาไปทั้งสองรอย แล้วก็เอาผ้าผืนนั้นไปเป็นผ้าประเจียดสำหรับคุ้มครองป้องกันตัว ฝ่าเท้าของหลวงพ่อต้องเปื้อนหมึกอยู่ตลอดทุกวัน หลวงพ่อเคยบ่นกับผู้เขียนในเวลาลับหลังเขาว่า
“มันทำกูเป็นหนูถีบจักร เมื่อยแข้งเมื่อยขาไปหมด”
ท่านยังเตือนพระที่เข้ามาเรียนวิชากับท่านว่า ระวังเถอะถ้าทำขลังแล้วจะเหนื่อยเหมือนกู
ปฏิปทา
หลวงพ่อเดิมท่านมีอุปนิสัยชอบสันโดษ มักน้อย มีความเมตตากรุณาเป็นอย่างมาก และมีความพากเพียรเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นท่านยังเป็นพระนักพัฒนา ท่านำได้สร้าสาธารณะประโยชน์ ก่อสร้างถาวรวัตถุในพระพุทธศาสนาให้มีความเจริญรุ่งเรือง จัดสร้างโรงเรียนขึ้นในวัด และโรงเรียนสอนดนตรีปี่พาทย์ ฝึกหัดลิเก และอื่นๆ
สมณศักดิ์
ในปี พ.ศ. 2457 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้เจ้าอธิการเดิม วัดหนองโพ เป็นพระครูนิวาสธรรมขันธ์ รองเจ้าคณะแขวงเมืองนครสวรรค์
ปี พ.ศ. 2462 คณะสงฆ์ได้แต่งตั้งหลวงพ่อเป็นเจ้าคณะแขวงอำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์
และได้รับตราตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์
ละสังขาร
หลวงเดิมเริ่มอาพาธ เมื่อวันอังคาร ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 (ตรงกับวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2494) และอาการทรุดลงเป็นลำดับ เมื่อวันอังคาร แรม 2 ค่ำ เดือนเดียวกัน (วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2494) อาการก็ทรุดหนักขึ้นครั้นตกตอนบ่ายในวันนั้น หลวงพ่อก็สอบถามว่า “เวลาเท่าใดแล้ว ๆ” ศิษย์ผู้พยาบาลก็กราบเรียนตอบเวลาจนถึงราว 17:00 น. หลวงพ่อจึงถามว่า น้ำในสระมีพอกินพอใช้กันหรือ ศิษย์ตอบว่า ถ้าฝนไม่ตกภายใน 6-7 วันนี้ ก็ไม่น่าจะพอ หลวงพ่อก็นิ่งสงบไม่ตอบและเอามือประสานกันจากนั้นก็เกิดกลุ่มเมฆใหญ่ตั้งเค้ามาและเกิดฝนตกอย่างหนักทำให้สระน้ำเพิ่มขึ้นมาเป็นจำนวนมาก พอฝนขาดเม็ด หลวงพ่อก็สิ้นลมหายใจ เมื่อเวลา 17:45 น.ของวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2494 อายุได้ 92 ปี 71 พรรษา
วัตถุมงคลเครื่องรางของขลังหลวงพ่อเดิม
หลวงพ่อท่านได้สร้างพระเครื่อง วัตถุมงคล และเครื่องรางของขลังขึ้นหลายแบบด้วยกันดังนี้
-มีดหมอเทพศาสตราวุธ ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องรางของขลังที่เป็นตำนานของไทย
-สิงห์งาแกะ
-นางกวักงาแกะ
-แหวนรูปเหมือนหลวงพ่อเดิม
-รูปหล่อ และเหรียญรูปเหมือน
และวัตถุมงคลอื่นๆ ซึ่งวัตถุมงคลของท่านต่อมาเป็นพระเครื่องและวัตถุมงคลในตำนานของเมืองไทยที่เป็นที่เสาะแสวงหาของนักสะสมเป็นอย่างมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น